สมุนไพรธนทร
หยุด!!!!
อาการ"ถ่ายเป็นเลือด"
สะพานสู่โรคร้าย..ไม่รักษา
"มะเร็ง"
ถามหาแน่นอน
📢คุณเป็น"ริดสีดวง"
💢ลองเช็คดูหากคุณมีอาการดังกล่าวเกิน3ข้อ
💢คำตอบคือ...ใช่
ภาวะท้องผูกเรื้อรัง
ท้องเสียบ่อย
ถ่ายแข็ง
ถ่ายไม่ออก
ถ่ายเป็นเลือด
มีหัว มีติ่ง เป็นตุ่มขอบทวาร
เลือดออกเวลาถ่าย
พฤติกรรมชอบเบ่งอุจจาระอย่างแรง
ชอบนั่งถ่ายอุจจาระเป็นเวลานาน
ใช้ยาสวนอุจจาระหรือยาระบายบ่อยเกินความจำเป็น
มีภาวะโรคตับแข็ง ซึ่งมีผลทำให้เลือดดำอุดตัน
อายุที่มากขึ้นทำให้กล้ามเนื้อหย่อนยาน
บุคคลในครอบครัวมีประวัติว่าเคยเป็นโรคริดสีดวงทวารหนัก
💢ลองเช็คดูหากคุณมีอาการดังกล่าวเกิน3ข้อ
💢คำตอบคือ...ใช่
ภาวะท้องผูกเรื้อรัง
ท้องเสียบ่อย
ถ่ายแข็ง
ถ่ายไม่ออก
ถ่ายเป็นเลือด
มีหัว มีติ่ง เป็นตุ่มขอบทวาร
เลือดออกเวลาถ่าย
พฤติกรรมชอบเบ่งอุจจาระอย่างแรง
ชอบนั่งถ่ายอุจจาระเป็นเวลานาน
ใช้ยาสวนอุจจาระหรือยาระบายบ่อยเกินความจำเป็น
มีภาวะโรคตับแข็ง ซึ่งมีผลทำให้เลือดดำอุดตัน
อายุที่มากขึ้นทำให้กล้ามเนื้อหย่อนยาน
บุคคลในครอบครัวมีประวัติว่าเคยเป็นโรคริดสีดวงทวารหนัก
หากลองมาหลายวิธี >>ไม่หาย
ออกกำลังกายทานผลไม้ช่วย หวังให้ถ่ายง่าย
ทานยาระบายเป็นเป็นอาหารเสริม
หลีกเลี่ยงของแสลง เผื่อริดสีดวงจะหาย
แช่น้ำอุ่น เพื่อให้เลือดไหลเวียนดี
ทานยาแก้อักเสบตลอด หมดฤทธิ์ก็กลับมาเป็นอีก
สรรหาสมุนไพรนานาชนิดเพื่อพิชิตริดสีดวง
สอดยาเหน็บยา บ่อยนับครั้งไม่ถ้วน
ฉีดยาก็ไมหาย
ยางรัดตามหมอแนะนำก็ไม่ดีขึ้น
ผ่ามาไม่หายซ้ำร้ายอั้นขี้ไม่อยู่
ทานยาระบายเป็นเป็นอาหารเสริม
หลีกเลี่ยงของแสลง เผื่อริดสีดวงจะหาย
แช่น้ำอุ่น เพื่อให้เลือดไหลเวียนดี
ทานยาแก้อักเสบตลอด หมดฤทธิ์ก็กลับมาเป็นอีก
สรรหาสมุนไพรนานาชนิดเพื่อพิชิตริดสีดวง
สอดยาเหน็บยา บ่อยนับครั้งไม่ถ้วน
ฉีดยาก็ไมหาย
ยางรัดตามหมอแนะนำก็ไม่ดีขึ้น
ผ่ามาไม่หายซ้ำร้ายอั้นขี้ไม่อยู่
เราพร้อมรับฟังทุกปัญหา??
อายแสนอาย รักษามามากมายไม่เคยหาย
ทุ่มเงินรักษา หมดเงิน เสียเวลา
กินยามานาน จนในร่างกายนั้นมีแต่สเตอรอยด์
สงสารคนรอบข้าง สงสารตัวเองที่ต้องมาเป็นภาระ
เดือดร้อนคนรอบข้าง ต้องพาไปรักษา
ทุ่มเงินรักษา หมดเงิน เสียเวลา
กินยามานาน จนในร่างกายนั้นมีแต่สเตอรอยด์
สงสารคนรอบข้าง สงสารตัวเองที่ต้องมาเป็นภาระ
เดือดร้อนคนรอบข้าง ต้องพาไปรักษา
..หมดปัญหากังวลใจ..
..อีกต่อไป
ถ่ายเป็นเลือดไม่ว่าระยะไหน..
เป็นมากเป็นน้อย..
ถ่ายเป็นเลือดเป็นๆหายๆ
ถ่ายเป็นเลือดเรื้อรัง
ชนิดเป็นภายนอก-ชนิดภายใน"หายได้"
ไม่ต้องผ่า ไม่ต้องรักษาแพงๆ
ไม่ต้อง #ทุกข์ทรมารอีกต่อไป
"ด้วย สมุนไพรริดสีดวง ธนทร" ทางเลือกใหม่ช่วยรักษา "ริดสีดวงที่ต้นเหตุ" ตรงจุด หัวฟ่อ หัวยุบ หยุดเลือดออกภายในเดือนเดียว เห็นผลชัดเจนตั้งแต่กล่องแรกแน่นอน
#อย่าปล่อยทิ้งไว้เสี่ยงโรคร้ายคุกคาม
..อีกต่อไป
ถ่ายเป็นเลือดไม่ว่าระยะไหน..
เป็นมากเป็นน้อย..
ถ่ายเป็นเลือดเป็นๆหายๆ
ถ่ายเป็นเลือดเรื้อรัง
ชนิดเป็นภายนอก-ชนิดภายใน"หายได้"
ไม่ต้องผ่า ไม่ต้องรักษาแพงๆ
ไม่ต้อง #ทุกข์ทรมารอีกต่อไป
"ด้วย สมุนไพรริดสีดวง ธนทร" ทางเลือกใหม่ช่วยรักษา "ริดสีดวงที่ต้นเหตุ" ตรงจุด หัวฟ่อ หัวยุบ หยุดเลือดออกภายในเดือนเดียว เห็นผลชัดเจนตั้งแต่กล่องแรกแน่นอน
#อย่าปล่อยทิ้งไว้เสี่ยงโรคร้ายคุกคาม
เคล็ดลับดีๆ วิธีรักษาริดสีดวงที่ต้นเหตุ
ทำมาหมดทุกวิธีไม่ดีขึ้น
ปรึกษา
สมุนไพรริดสีดวง ธนทร
นะค่ะ
สมุนไพรริดสีดวงธนทรเข้าฟื้นฟู
ริดสีดวงถ่ายเป็นเลือด
ได้อย่างตรงจุด
สมุนไพรริดสีดวง เกรดพรีเมียม ช่วยทำให้การไหลเวียนโลหิตได้ดี ลดการคั่งของเลือดบริเวรปากทวาร ส่งผลให้ติ่งเนื้อยุบตัวและฝ่อลดอาการปวดแดง บวมเปล่ง ลดการอักเสบบริเวณปากทวาร ลดอาการเลือดออก สมานแผลด้านใน ฆ่าเชื้อ ลดแบคทีเรีย รักษาอาการคัน แสบขอบทวารด้านในและนอก ทำให้ไม่กลับมาเป็นอีกและอีกทั้งยังทำให้การขับถ่ายเป็นปกติ ไม่แข็ง สมุนไพรธนทรรักษาฟื้นฟูหูรูดที่เสื่อมบริเวณขอบทวารให้กลับมา"ปกติ" อุจจาระไม่ไหล น้ำที่เมือกๆในช่องรูทวารไม่ไหลออก ใช้ชีวิตประจำวันได้ปกติ ไม่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ ห่างไกลโรคมะเร็ง อีกหนึ่ง วิธีรักษาริดสีดวง ให้หายขาด
แนะนำควร
"รีบ"
รักษาก่อนสายติดเชื้อกลายเป็น มะเร็งร้าย แน่นอน
หากไม่รักษาผลร้ายที่ตามคือ....
- ภาวะซีด เมื่อมีเลือดออกจำนวนมาก
- ตกเลือด จะเกิดขึ้นกับผู้ป่วยที่ถ่ายเป็นเลือด
- ปากทวารอักเสบเรื้อรัง
- ลิ่มเลือดอุดตันทำให้อักเสบ
- ระบบขับถ่ายมีปัญหา
- ติดเชื้อ เมื่อเป็นแผลเวลานาน
- ต้องผ่าตัด รักษาราคาแพง
- เป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่
- เป็นมะเร็งที่ทวารหนัก
รักษามาหลายวิธีไม่หายลองเปิดใจให้สมุนไพรริดสีดวงดูแลคุณนะคะ
สมุนไพรริดสีดวง ทางเลือกใหม่ ตอบโจทน์การรักษาอาการเหล่านี้ ที่สามารถทำให้คุณ "หายได้"
"ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ" โทร. 0899141901
รีวิวผู้ที่ทานสมุนไพรธนทรแล้วอาการดีขึ้น
แล้วคุณล่ะ.."รออะไร"
อยากหายคลิ๊กเข้ามา!!
เราพร้อมดูแลตลอดการรักษา..จนกว่าจะหาย
สงสัยไหม..ทำไมเราถึงเป็น
โรคริดสีดวงเกิดจากความเสื่อม ระบบการบีบรัดตัวและหูรูของลำไส้ใหญ่ทำให้ไม่สามารถ.....บีบรัดอุจจาระให้ออกทางทวารหนักได้เราจึงพยายามเบ่ง เบ่งมากๆหลอดเลือดดำบริเวณปากทวารจึงโป่งพองเป็นติ่งเนื้อหากเวลาถ่ายมีเศษอุจจาระที่แข็งไปโดนหัวริดสีดวงแตกเกิดมีเลือดออกตามมาในกรณีที่ถ่ายเหลวก้อเช่นกันค่ะ ลำไส้ใหญ่ไม่สามารถเก็บกักอุจจาระไว้ได้เพราะเกิดจากความเสื่อมของระบบลำไส้
ผลิตโดย คุณหมอจอย เจ้าของ โรงงานเทพประทานโอสถ
การันตีด้วยรางวัล .......คุณภาพ.........
..ทำไมต้องทน!!!
จนชีวิตไม่มีความ"สุข"
ริดสีดวง เป็นได้
..หายได้ ไม่ต้องผ่า..
สมุนไพรริดสีดวง
อยากหายท้าให้ลอง
"สมุนไพรธนทร"
สมุนไพรริดสีดวง
ก่อนหันไปกดชักโครก คุณควรหันไปสังเกตลักษณะของอุจจาระของคุณบ้างหรือเปล่า เพราะสุขภาพของเรานั้นสามารถตรวจได้ง่ายๆ จากอุจจาระนี่แหละ ไม่ว่าจะเป็นขนาด สี กลิ่น หรือลักษณะที่เห็นได้จากภายนอก
ความผิดปกติที่ชัดเจน และหลายคนนั้นอาจตกใจเมื่อได้เห็น คืออุจจาระเป็นเลือด หรืออุจจาระที่มีเลือดสดๆ ปนออกมาด้วย และที่เราทราบกันมาคือ มีความเป็นไปได้สูงที่จะเป็นโรคริดสีดวงทวาร แต่อันที่จริงแล้ว ยังมีอีกหลายโรคที่อาจแสดงอาการเริ่มต้นจากอุจจาระเป็นเลือด แถมยังอันตรายกว่าโรคริดสีดวงทวารอีกด้วย
6 โรคอันตราย ที่เริ่มต้นจากอาการ “อุจจาระเป็นเลือด”
-โรคริดสีดวงทวาร
คนที่ท้องผูกบ่อยๆ จะมีความเสี่ยงเป็นโรคนี้ได้มากกว่าคนที่ถ่ายได้ตามปกติ หากมีอุจจาระเป็นก้อนแข็งบ่อยๆ จนอุจจาระไปครูดกับผิว หรือเยื่อเมือกของทวารหนักจนเกิดเป็นแผล มีเลือดสดไหลออกมาเป็นหยดๆ หรือเป็นเส้นๆ พร้อมอุจจาระอยู่บ่อยๆ นอกจากจะมีอาการปวดแสบบริเวณรูทวารหนักแล้ว ยังอาจมีก้อนริดสีดวงปลิ้นออกมา จนมีอาการอักเสบ ปวดแสบหนักมากขึ้น หากอาการไม่ดีขึ้น ควรรีบพบแพทย์เพื่อการรักษาอย่างถูกวิธี
-เลือดออกในลำไส้ใหญ่
หากมีเลือดสดๆ หรือลิ่มเลือดไหลออกมาพร้อมกับอุจจาระด้วย แต่ไม่ได้มีอาการปวดแสบที่ทวารหนัก เพราะไม่ได้มีอาการท้องผูก อาจเป็นเพราะมีเลือกออกในลำไส้ใหญ่ หากมีอาการเล็กๆ น้อยๆ เลือดไหลออกมาน้อย และเลือดหยุดไหลได้เอง สามารถรอดูอาการที่บ้านได้ แต่หากมีเลือดไหลออกมาก ควรนอนพัก งดน้ำงดอาหาร และพบแพทย์ที่โรงพยาบาลดีที่สุด
-เลือดออกในกระเพาะอาหาร หรือลำไส้เล็ก
อาการอาจเริ่มจากอาเจียนออกมาเป็นเลือดก่อน (หรือไม่มีอาการอาเจียนก็ได้) จากนั้นอาจตามด้วยการอุจจาระเป็นเลือด โดยเลือดจะเป็นสีเข้มจนเกือบดำ หากถ่ายเป็นเลือดจำนวนมาก ควรงดน้ำ งดอาหาร แล้วรีบพบแพทย์โดยด่วน
-โรคบิด
หากมีอาการท้องเสียท้องร่วง แล้วอุจจาระมีมูกเลือดปน กลิ่นเหม็นรุนแรง อาจเสี่ยงเป็นโรคบิดที่เกิดจากการติดเชื้อในลำไส้ใหญ่ จนทำให้ลำไส้ใหญ่อักเสบ เป็นแผล ควรให้แพทย์ตรวจอุจจาระเพื่อหาสาเหตุที่ชัดเจนที่โรงพยาบาล
-โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่
มะเร็งจะทำให้เกิดแผล โดยเฉพาะบริเวณใกล้ทวารหนัก จึงทำให้มีความเสี่ยงที่จะถ่ายแล้วมีเลือดปน โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่มักเกิดขึ้นกับผู้ใหญ่อายุมากกว่า 40-50 ปี แต่ก็มีโอกาสที่จะเกิดขึ้นกับคนวัยรุ่น วัยทำงานได้เช่นกัน ยิ่งครอบครัวของใครมีประวัติเป็นโรคนี้มาก่อน ก็จะยิ่งมีความเสี่ยงมากยิ่งขึ้น ทางที่ดีคือ ลดการทานเนื้อแดง อาหารปิ้งย่างไหม้เกรียม หยุดสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ และออกกำลังกายเป็นประจำ
-โรคลำไส้ขาดเลือด
โรคลำไส้ขาดเลือด มาจากหลายสาเหตุ แต่อาการคือเลือดไม่สามารถเข้าไปไหลเวียนในลำไส้ได้ ทำให้เซลล์ลำไส้เริ่มไม่ทำงาน จนกระทั่งเซลล์ตาย และเริ่มเน่าจนมีแบคทีเรีย อาการที่พบคือปวดท้องเกร็ง อาจปวดมากจนหมดสติ และอาจมีอาการติดเชื้อในกระแสเลือดจนเสียชีวิตได้ หากระหว่างปวดท้องมีอาการถ่ายเป็นเลือดด้วย แสดงว่าอาการเริ่มจะหนัก ควรรีบพบแพทย์เพื่อทำการตรวจเช็คให้แน่ใจ เพราะหากบางส่วนของลำไส้เริ่มเน่า จะต้องผ่าตัดเพื่อนำลำไส้ส่วนที่เสียแล้วออกไป แล้วต่อลำไส้ที่ยังทำงานได้ตามปกติเข้าด้วยกัน
##นอกจากอุจจาระเป็นเลือดจะ##
เป็นสัญญาณอันตรายถึงโรคต่างๆ ได้แล้วการที่สีของอุจจาระมีสีแดงเข้มหรือเกือบดำ อาจมาจากสาเหตุอื่นๆ เช่น การทานอาหารที่มีเลือดสัตว์เป็นส่วนประกอบ หรือกำลังทานยาบำรุงเลือดอยู่ก็เป็นได้ ดังนั้นหากมีอาการถ่ายเป็นเลือด หรือสีคล้ายเลือดเล็กๆ น้อยๆ และไม่มีอาการผิดปกติอื่นๆ อาจลองทานผักผลไม้ให้มากขึ้น ดื่มน้ำให้มากขึ้น และออกกำลังกายสม่ำเสมอ อาจช่วยให้อาการดังกล่าวดีขึ้น แต่หากไม่แน่ใจ พบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายก็จะดีที่สุดค่ะ
ความผิดปกติที่ชัดเจน และหลายคนนั้นอาจตกใจเมื่อได้เห็น คืออุจจาระเป็นเลือด หรืออุจจาระที่มีเลือดสดๆ ปนออกมาด้วย และที่เราทราบกันมาคือ มีความเป็นไปได้สูงที่จะเป็นโรคริดสีดวงทวาร แต่อันที่จริงแล้ว ยังมีอีกหลายโรคที่อาจแสดงอาการเริ่มต้นจากอุจจาระเป็นเลือด แถมยังอันตรายกว่าโรคริดสีดวงทวารอีกด้วย
6 โรคอันตราย ที่เริ่มต้นจากอาการ “อุจจาระเป็นเลือด”
-โรคริดสีดวงทวาร
คนที่ท้องผูกบ่อยๆ จะมีความเสี่ยงเป็นโรคนี้ได้มากกว่าคนที่ถ่ายได้ตามปกติ หากมีอุจจาระเป็นก้อนแข็งบ่อยๆ จนอุจจาระไปครูดกับผิว หรือเยื่อเมือกของทวารหนักจนเกิดเป็นแผล มีเลือดสดไหลออกมาเป็นหยดๆ หรือเป็นเส้นๆ พร้อมอุจจาระอยู่บ่อยๆ นอกจากจะมีอาการปวดแสบบริเวณรูทวารหนักแล้ว ยังอาจมีก้อนริดสีดวงปลิ้นออกมา จนมีอาการอักเสบ ปวดแสบหนักมากขึ้น หากอาการไม่ดีขึ้น ควรรีบพบแพทย์เพื่อการรักษาอย่างถูกวิธี
-เลือดออกในลำไส้ใหญ่
หากมีเลือดสดๆ หรือลิ่มเลือดไหลออกมาพร้อมกับอุจจาระด้วย แต่ไม่ได้มีอาการปวดแสบที่ทวารหนัก เพราะไม่ได้มีอาการท้องผูก อาจเป็นเพราะมีเลือกออกในลำไส้ใหญ่ หากมีอาการเล็กๆ น้อยๆ เลือดไหลออกมาน้อย และเลือดหยุดไหลได้เอง สามารถรอดูอาการที่บ้านได้ แต่หากมีเลือดไหลออกมาก ควรนอนพัก งดน้ำงดอาหาร และพบแพทย์ที่โรงพยาบาลดีที่สุด
-เลือดออกในกระเพาะอาหาร หรือลำไส้เล็ก
อาการอาจเริ่มจากอาเจียนออกมาเป็นเลือดก่อน (หรือไม่มีอาการอาเจียนก็ได้) จากนั้นอาจตามด้วยการอุจจาระเป็นเลือด โดยเลือดจะเป็นสีเข้มจนเกือบดำ หากถ่ายเป็นเลือดจำนวนมาก ควรงดน้ำ งดอาหาร แล้วรีบพบแพทย์โดยด่วน
-โรคบิด
หากมีอาการท้องเสียท้องร่วง แล้วอุจจาระมีมูกเลือดปน กลิ่นเหม็นรุนแรง อาจเสี่ยงเป็นโรคบิดที่เกิดจากการติดเชื้อในลำไส้ใหญ่ จนทำให้ลำไส้ใหญ่อักเสบ เป็นแผล ควรให้แพทย์ตรวจอุจจาระเพื่อหาสาเหตุที่ชัดเจนที่โรงพยาบาล
-โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่
มะเร็งจะทำให้เกิดแผล โดยเฉพาะบริเวณใกล้ทวารหนัก จึงทำให้มีความเสี่ยงที่จะถ่ายแล้วมีเลือดปน โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่มักเกิดขึ้นกับผู้ใหญ่อายุมากกว่า 40-50 ปี แต่ก็มีโอกาสที่จะเกิดขึ้นกับคนวัยรุ่น วัยทำงานได้เช่นกัน ยิ่งครอบครัวของใครมีประวัติเป็นโรคนี้มาก่อน ก็จะยิ่งมีความเสี่ยงมากยิ่งขึ้น ทางที่ดีคือ ลดการทานเนื้อแดง อาหารปิ้งย่างไหม้เกรียม หยุดสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ และออกกำลังกายเป็นประจำ
-โรคลำไส้ขาดเลือด
โรคลำไส้ขาดเลือด มาจากหลายสาเหตุ แต่อาการคือเลือดไม่สามารถเข้าไปไหลเวียนในลำไส้ได้ ทำให้เซลล์ลำไส้เริ่มไม่ทำงาน จนกระทั่งเซลล์ตาย และเริ่มเน่าจนมีแบคทีเรีย อาการที่พบคือปวดท้องเกร็ง อาจปวดมากจนหมดสติ และอาจมีอาการติดเชื้อในกระแสเลือดจนเสียชีวิตได้ หากระหว่างปวดท้องมีอาการถ่ายเป็นเลือดด้วย แสดงว่าอาการเริ่มจะหนัก ควรรีบพบแพทย์เพื่อทำการตรวจเช็คให้แน่ใจ เพราะหากบางส่วนของลำไส้เริ่มเน่า จะต้องผ่าตัดเพื่อนำลำไส้ส่วนที่เสียแล้วออกไป แล้วต่อลำไส้ที่ยังทำงานได้ตามปกติเข้าด้วยกัน
##นอกจากอุจจาระเป็นเลือดจะ##
เป็นสัญญาณอันตรายถึงโรคต่างๆ ได้แล้วการที่สีของอุจจาระมีสีแดงเข้มหรือเกือบดำ อาจมาจากสาเหตุอื่นๆ เช่น การทานอาหารที่มีเลือดสัตว์เป็นส่วนประกอบ หรือกำลังทานยาบำรุงเลือดอยู่ก็เป็นได้ ดังนั้นหากมีอาการถ่ายเป็นเลือด หรือสีคล้ายเลือดเล็กๆ น้อยๆ และไม่มีอาการผิดปกติอื่นๆ อาจลองทานผักผลไม้ให้มากขึ้น ดื่มน้ำให้มากขึ้น และออกกำลังกายสม่ำเสมอ อาจช่วยให้อาการดังกล่าวดีขึ้น แต่หากไม่แน่ใจ พบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายก็จะดีที่สุดค่ะ
ยารักษาริดสีดวง โดยทั่วไป
การใช้ ยาริดสีดวง ในขณะที่มีอาการเลือดออกและหรือเจ็บปวด ควรแนะนำการปฏิบัติตัวควบคู่กับการใช้ยาเหน็บทางทวารหนัก ซึ่งเป็นยาใช้ภายนอก มีทั้งชนิดแท่งและชนิดขี้ผึ้ง ประกอบด้วย ยาชา (บรรเทาอาการปวด) ยาริดสีดวงลดการอักเสบ ยาริดสีดวงหดตัวของหลอดเลือด และยาริดสีดวงปฏิชีวนะ ซึ่ง ผู้ผลิตมักผลิตยาของตนเองทั้ง ๒ ชนิดคือ ทั้งชนิดแท่งและชนิดขี้ผึ้ง ซึ่งมีส่วนประกอบของตัวยาและความเข้มข้นเท่ากัน
การใช้ ยารักษาริดสีดวง ชนิดแท่ง เมื่อจะใช้ควรแช่ในตู้เย็น น้ำแข็ง หรือน้ำเย็น เพื่อให้ยาแข็งตัว ก่อนนำออกมาใช้ เพราะที่อุณหภูมิห้อง ยาริดสีดวงนี้จะเป็นของเหลว แต่ถ้าแช่เย็น ยานี้จะแข็ง เมื่อเหน็บเข้าไปในร่างกายแล้ว อุณหภูมิของร่างกายที่ร้อนกว่า จะช่วยละลายยาให้กระจายไปทั่วบริเวณ เมื่อแข็งตัวดีแล้ว ก็นำแท่งยาสอดเข้าทางรูทวารหนักให้สุด วันละ ๑-๒ ครั้ง หลังการถ่ายอุจจาระ และอีกเวลาหนึ่ง อาจเป็นเวลาเช้า หรือก่อนนอนก็ได้ แล้วแต่สะดวก ให้ห่างกันประมาณ ๑๒ ชั่วโมง
กรณีที่เป็นขี้ผึ้ง ผู้ผลิตมักแนบหลอดต่อกับปากของหลอดยา เพื่อใช้สวนเข้าในช่องทวารหนัก แล้วบีบยาขี้ผึ้งเข้าไป ซึ่งมีความถี่และระยะเวลาการให้ยาเช่นเดียวกับแท่งยาริดสีดวงคือ วันละ ๑-๒ ครั้ง ให้ห่างกันประมาณ ๑๒ ชั่วโมง
นอกจากนี้ อาจมียาหดตัวของหลอดเลือด ยาฝาดสมาน ยาช่วยเพิ่มความแข็งแรงของหลอดเลือดดำ ยาระบาย มาใช้ในการบรรเทาอาการของริดสีดวงทวาร
การใช้ ยารักษาริดสีดวง ชนิดแท่ง เมื่อจะใช้ควรแช่ในตู้เย็น น้ำแข็ง หรือน้ำเย็น เพื่อให้ยาแข็งตัว ก่อนนำออกมาใช้ เพราะที่อุณหภูมิห้อง ยาริดสีดวงนี้จะเป็นของเหลว แต่ถ้าแช่เย็น ยานี้จะแข็ง เมื่อเหน็บเข้าไปในร่างกายแล้ว อุณหภูมิของร่างกายที่ร้อนกว่า จะช่วยละลายยาให้กระจายไปทั่วบริเวณ เมื่อแข็งตัวดีแล้ว ก็นำแท่งยาสอดเข้าทางรูทวารหนักให้สุด วันละ ๑-๒ ครั้ง หลังการถ่ายอุจจาระ และอีกเวลาหนึ่ง อาจเป็นเวลาเช้า หรือก่อนนอนก็ได้ แล้วแต่สะดวก ให้ห่างกันประมาณ ๑๒ ชั่วโมง
กรณีที่เป็นขี้ผึ้ง ผู้ผลิตมักแนบหลอดต่อกับปากของหลอดยา เพื่อใช้สวนเข้าในช่องทวารหนัก แล้วบีบยาขี้ผึ้งเข้าไป ซึ่งมีความถี่และระยะเวลาการให้ยาเช่นเดียวกับแท่งยาริดสีดวงคือ วันละ ๑-๒ ครั้ง ให้ห่างกันประมาณ ๑๒ ชั่วโมง
นอกจากนี้ อาจมียาหดตัวของหลอดเลือด ยาฝาดสมาน ยาช่วยเพิ่มความแข็งแรงของหลอดเลือดดำ ยาระบาย มาใช้ในการบรรเทาอาการของริดสีดวงทวาร
ชนิดของโรคริดสีดวงทวาร
โรคริดสีดวง ทวารหนักเป็นส่วนติดต่อมาจากลำไส้ใหญ่และมาเปิดออกนอกร่างกาย มีความยาวประมาณ 4 เซนติเมตร และถูกแบ่งครึ่งออกเป็น 2 ส่วน ด้วยเส้นรอบวงที่เรียกว่า “แนวเส้นประสาท” หรือ “แนวรอยต่อระหว่างปลายลำไส้กับทวารหนัก” (Dentate Line หรือ Pectinate Line) ส่วนที่อยู่เหนือแนวเส้นประสาทจะเรียกว่า “รูทวารหนัก” (Anal canal) ซึ่งจะไม่มีเส้นประสาทรับความเจ็บปวดมาเลี้ยงที่ผนังของรูทวารหนักปกติ แต่จะมีก้อนเนื้อนูนออกมาเป็นระยะโดยรอบ หรือที่เรียกว่า “เบาะรอง” (Cushion) ซึ่งภายในจะมีกลุ่มเส้นเลือดและกล้ามเนื้ออยู่
1.โรคริดสีดวงทวารแบบภายนอก (External hemorrhoids) จะปกคลุมไปด้วยชั้นผิวหนัง เกิดขึ้นในบริเวณใต้แนวเส้นประสาท (Pectinate Line) ซึ่งจะมีเส้นประสาทรับความรู้สึกเจ็บปวดมาเลี้ยง เรียกว่า “ปากทวารหนัก” (Anal margin) เมื่อเบาะรองจากบริเวณรูทวารหนักเลื่อนตัวลงมาเรื่อย ๆ จนถึงปากทวารหนัก ก็จะดันกลุ่มเส้นเลือดและเนื้อเยื่อของปากทวารหนักให้เลื่อนต่ำลงและเบียดออกไปด้านข้างจนกลายเป็นก้อนนูนที่ปากทวารหนัก
2.โรคริดสีดวงทวารแบบภายใน (Internal hemorrhoids) จะปกคลุมด้วยเยื่อบุลำไส้ เกิดขึ้นในบริเวณเหนือแนวเส้นประสาท (Pectinate Line) หรือที่รูทวารหนัก ซึ่งจะไม่มีเส้นประสาทรับความเจ็บปวดมาเลี้ยงที่ผนังของรูทวารหนักปกติ ผู้เป็นริดสีดวงแบบนี้จึงมักไม่มีอาการเจ็บปวด และผู้ที่เป็นส่วนใหญ่ก็มักไม่ให้ความสนใจแม้จะรู้ตัวว่าเป็น ถ้ารักษาไม่หายก็สามารถเป็นริดสีดวงทวารได้ 2 แบบ คือ แบบมีก้อนยื่นออกทวาร (Prolapsed hemorrhoids) หรือแบบบีบรัด (Strangulated hemorrhoids) ถ้าหูรูดทวารหนักหดตัวและบีบก้อนหัวริดสีดวงจนขาดเลือดไปเลี้ยง ริดสีดวงก็จะกลายเป็นแบบบีบรัด
หากเป็นไม่ต้องอาย
"ปรึกษา"
ได้ตลอดเวลา
สมุนไพรริดสีดวง
"ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ" โทร. 0899141901
การรักษาโรคริดสีดวง
เหน็บ ยารักษาริดสีดวง ยาริดสีดวงแบบเหน็บรักษาริดสีดวงนั้นมีหลายยี่ห้อและหลายชนิด แต่มีตัวยาคล้ายกัน โดยแนะนำให้เลือกยาริดสีดวงแบบเหน็บที่มีส่วนผสมของเบนโซเคน 1 กรัม ครีมลาโนลิน 15 กรัม ซึ่งเป็นตัวยาสำคัญในการรักษาโรคริดสีดวง
การรักษาโดยการฉีดยาริดสีดวงวิธีนี้จะใช้การฉีดยาริดสีดวงเข้าไปในตำแหน่งของริดสีดวงที่เลือดออก เพื่อทำให้เลือดจับลิ่มในหัวริดสีดวง หลังจากนั้นจะเกิดเนื้อพังผืดมาแทนที่หัวริดสีดวง ต่อมาเนื้อพังผืดก็จะเกิดการหดตัวตามธรรมชาติ และจะทำให้หัวริดสีดวงฝ่อไป
ภาวะแทรกซ้อนจากการฉีดยา ไม่ว่าจะเป็นการฉีดยาริดสีดวงที่อาจทำให้เนื้อริดสีดวงเน่าหรือเนื้อรอบ ๆ บริเวณเน่า กลายเป็นเนื้อตาย
การรักษาโดยการใช้ยางรัดโดยการยิงยางรัดหัวของริดสีดวงที่โผล่ออกมา เพื่อให้ริดสีดวงขาดเลือด ซึ่งจะทำให้หัวของริดสีดวงฝ่อและหลุดไปเองตามธรรมชาติ
ภาวะแทรกซ้อนจากการรักษาด้วยการใช้ยางรัด แม้จะเป็นวิธีที่ได้รับความนิยม แต่หากได้รับการรักษาที่ไม่ดีพอ หรือผู้ที่รักษาไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ จะทำให้เกิดผลแทรกซ้อนที่รุนแรงตามมาได้ เช่น ฝีรอบ ๆ ลำไส้ หรือการติดเชื้อจนพิษเข้าสู่กระแสเลือด เป็นต้น
การผ่าตัดริดสีดวงที่อยู่ในระยะที่ 3 และ 4 นั้นจะมีขนาดใหญ่มากจนไม่สามารถกลับเข้าไปได้เอง ต้องรักษาด้วยวิธีการผ่าตัดเท่านั้น การผ่าตัดจะขึ้นอยู่กับจำนวนและชนิดของริดสีดวงทวาร รวมทั้งความชำนาญของศัลยแพทย์ เช่น ริดสีดวง 1–2 ตำแหน่ง อาจมีการใช้อุปกรณ์พิเศษช่วยในการตัดริดสีดวงทวาร โดยไม่ต้องใช้ไหมเย็บแผล แต่ถ้ามีริดสีดวงทวารตั้งแต่ 3 ตำแหน่งขึ้นไป อาจใช้เครื่องมือตัดต่อเยื่อบุลำไส้ชนิดกลม โดยการตัดและเย็บนี้จะเกิดตามแนวเส้นรอบวงของช่องทวารหนัก ซึ่งวิธีการนี้มีข้อดีคือ สามารถตัดหัวริดสีดวงออกได้ทุกหัว และไม่ทำให้รูทวารหนักแคบลง และแนวเย็บแผลยังอยู่สูงกว่าปากทวารหนัก ผู้ป่วยจะไม่มีแผลภายนอกเลย อีกทั้งอาการเจ็บปวดหลังผ่าตัดก็มีไม่มาก
ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการผ่าตัด
- เกิดการติดเชื้อ
- มีเลือดออก
- กลั้นอุจจาระไม่ได้
- มีอาการปวดเวลาปัสสาวะ
สมุนไพรริดสีดวง ทางเลือกใหม่สำหรับผู้ป่วยริดสีดวง
อยากหาย ปรึกษาฟรี
ผสานคุณค่าสมุนไพรรักษาริดสีดวงมากมายกว่า 50 ชนิดทั้งโสมคน ตั่งถั่งเชา เห็ดหลินจือ กำลังวัวเถลิง ปาเก็ก เป็นต้น
ริดสีดวง รักษาด้วยตัวเอง ต้องทำยังไง
หากเป็นริดสีดวงระยะแรกที่หัวยังอยู่ภายใน ไม่เจ็บ แต่จะมีเลือดออก หรือริดสีดวงระยะที่ 2 ที่มีหัวริดสีดวงยื่นออกมาจากปากทวารเมื่อถ่ายอุจจาระ แต่จะหดกลับเข้าไปเองได้ ริดสีดวงทั้ง 2 ระยะนี้สามารถรักษาได้ด้วยตนเองในเบื้องต้น ด้วยวิธีการดังนี้ค่ะ
- นั่งแช่ในน้ำอุ่น
ผสมน้ำให้อุ่นพอเอามือลงไปจุ่มได้สบาย ๆ ในกะละมังใบใหญ่พอจะลงไปนั่งได้ เทด่างทับทิมลงผสมในน้ำจนน้ำกลายเป็นสีชมพูจาง ๆ จากนั้นให้นั่งเอาก้นลงไปแช่น้ำในกะละมังนาน 15-30 นาที ทั้งนี้ควรทำทั้งก่อนและหลังถ่ายอุจจาระ โดยก่อนถ่ายให้แช่น้ำอุ่น ส่วนหลังถ่ายให้แช่น้ำเย็นขึ้นมาอีกหน่อย วิธีนี้จะช่วยลดอาการอักเสบ
- เหน็บ ยารักษาริดสีดวง
ยาเหน็บมีขายหลายชนิด หลายยี่ห้อ แต่ส่วนมาจะมีตัวยาคล้าย ๆ กันคือ มีน้ำมันสำหรับหล่อลื่น มียาชาเฉพาะที่สำหรับระงับอาการเจ็บปวด และบางชนิดผสมสเตียรอยด์เพื่อลดอาการอักเสบด้วย ทว่าแนะนำให้เลือกยาเหน็บที่มีส่วนผสมของตัวยาเบนโซเคน (Benzocaine) 1 กรัม ครีมลาโนลิน (Lanolin Ointment base) 15 กรัม ซึ่งเป็นตัวยาสำคัญในการรักษาโรคริดสีดวง6
หากเป็นริดสีดวงระยะแรกที่หัวยังอยู่ภายใน ไม่เจ็บ แต่จะมีเลือดออก หรือริดสีดวงระยะที่ 2 ที่มีหัวริดสีดวงยื่นออกมาจากปากทวารเมื่อถ่ายอุจจาระ แต่จะหดกลับเข้าไปเองได้ ริดสีดวงทั้ง 2 ระยะนี้สามารถรักษาได้ด้วยตนเองในเบื้องต้น ด้วยวิธีการดังนี้ค่ะ
- นั่งแช่ในน้ำอุ่น
ผสมน้ำให้อุ่นพอเอามือลงไปจุ่มได้สบาย ๆ ในกะละมังใบใหญ่พอจะลงไปนั่งได้ เทด่างทับทิมลงผสมในน้ำจนน้ำกลายเป็นสีชมพูจาง ๆ จากนั้นให้นั่งเอาก้นลงไปแช่น้ำในกะละมังนาน 15-30 นาที ทั้งนี้ควรทำทั้งก่อนและหลังถ่ายอุจจาระ โดยก่อนถ่ายให้แช่น้ำอุ่น ส่วนหลังถ่ายให้แช่น้ำเย็นขึ้นมาอีกหน่อย วิธีนี้จะช่วยลดอาการอักเสบ
- เหน็บ ยารักษาริดสีดวง
ยาเหน็บมีขายหลายชนิด หลายยี่ห้อ แต่ส่วนมาจะมีตัวยาคล้าย ๆ กันคือ มีน้ำมันสำหรับหล่อลื่น มียาชาเฉพาะที่สำหรับระงับอาการเจ็บปวด และบางชนิดผสมสเตียรอยด์เพื่อลดอาการอักเสบด้วย ทว่าแนะนำให้เลือกยาเหน็บที่มีส่วนผสมของตัวยาเบนโซเคน (Benzocaine) 1 กรัม ครีมลาโนลิน (Lanolin Ointment base) 15 กรัม ซึ่งเป็นตัวยาสำคัญในการรักษาโรคริดสีดวง6
สนใจ ติดต่อ
สอบถามผู้เชี่ยวชาญ
โดยตรงเพียงกดด้านล่างนี้
"ริดสีดวง หายได้ ไม่ต้องผ่า"
ไม่ต้องเจ็บ ใช้เวลาไม่นาน เห็นผลแน่นอน100%และที่สำคัญราคาไม่แพงอย่างที่คิดด้วย"สมุนไพรธนทร"
วิธีป้องกันโรคริดสีดวงทวาร
ทางที่ดีที่สุดในการป้องกันคือ ทำให้อุจจาระไม่แข็งและผ่านไปได้โดยง่าย ด้วยการรับประทานผักและผลไม้ที่มีกากใยสูง ๆ ให้มาก ๆ ระวังอย่าให้ท้องผูก
ดื่มน้ำมาก ๆ อย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว เพื่อช่วยให้อุจจาระอ่อนนุ่มและขับถ่ายออกได้ง่าย
ฝึกเข้าห้องน้ำให้เป็นเวลา ไม่กลั้นอุจจาระ (ขับถ่ายโดยไวเมื่อรู้สึกปวดอุจจาระ)
หลีกเลี่ยงการนั่งเบ่งถ่ายอุจจาระเป็นเวลานาน ๆ (ให้ใช้เวลาให้น้อยที่สุดในขณะเบ่งถ่าย และหลีกเลี่ยงการเล่นโทรศัพท์มือถือและอ่านหนังสือในขณะขับถ่าย)
ทางที่ดีที่สุดในการป้องกันคือ ทำให้อุจจาระไม่แข็งและผ่านไปได้โดยง่าย ด้วยการรับประทานผักและผลไม้ที่มีกากใยสูง ๆ ให้มาก ๆ ระวังอย่าให้ท้องผูก
ดื่มน้ำมาก ๆ อย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว เพื่อช่วยให้อุจจาระอ่อนนุ่มและขับถ่ายออกได้ง่าย
ฝึกเข้าห้องน้ำให้เป็นเวลา ไม่กลั้นอุจจาระ (ขับถ่ายโดยไวเมื่อรู้สึกปวดอุจจาระ)
หลีกเลี่ยงการนั่งเบ่งถ่ายอุจจาระเป็นเวลานาน ๆ (ให้ใช้เวลาให้น้อยที่สุดในขณะเบ่งถ่าย และหลีกเลี่ยงการเล่นโทรศัพท์มือถือและอ่านหนังสือในขณะขับถ่าย)